เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่จูด สปริง เฟลโลว์ และสุนัขของเธอ ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมระหว่างหมาจูกับลาบราดอร์ ตระเวนเดินสายไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อม กับถ้อยคำง่าย ๆ “เฟธเดินได้”
เจ้าเฟธ เป็นสุนัขที่เกิดวันคริสต์ มาสปี 2545 แต่ด้วยความโชคร้ายทำให้มันเกิดมามีสามขา สองขาหลังปกติ แต่ หนึ่งขาหน้านั้นพิการ จึงถูกตัดในเวลาต่อมาเป็นเหตุให้เฟธไม่อาจเดินได้ตั้งแต่เกิดแม้แต่แม่ของเฟธก็ยังไม่ต้องการมัน แต่เฟธก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อมันได้ รับความช่วยเหลือจากรูเบน สปริงเฟลโลว์ ซึ่งตอนนั้นเขาอายุ 17 ปี และตอนนี้ อยู่ระหว่างการรับใช้ชาติในฐานะทหารบกสหรัฐ
จากนั้นรูเบนได้มอบเฟธให้แก่แม่ของเขา ซึ่งก็คือจูด สปริงเฟลโลว์ ครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นผู้ดูแล และเป็นคนตั้งชื่อให้ว่า เฟธ ซึ่งในภาษาอังกฤษ มีความหมายว่าศรัทธา ตอนแรกครอบครัวสปริงเฟลโลว์ มักอุ้มเฟธเวลาไปไหนมาไหน แต่ในที่สุด จูดจึงฝึกสุนัขตัวนี้ให้เดินด้วยตัวเอง เบื้องต้นเธอให้เฟธ อยู่บนกระดานโต้คลื่น เพื่อให้รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว ต่อมาใช้พีนัทบัตเตอร์ หรือถั่วลิสงบดเคล้ากับเนยเป็นรางวัล ล่อให้เฟธยืนและกระโดดไปรอบ ๆ ด้วยขาหลังที่เหลืออยู่ และภายหลังการฝึกบนหิมะ เฟธก็สามารถเดินได้เหมือนคน
ทุกวันนี้ เฟธมีความคล่องตัวขึ้น สามารถเดินและวิ่งได้ตามที่ต้องการ ถึงกระนั้น เฟธยังต้องกินวิตามินและอาหารเสริมต่าง ๆ นับตั้งแต่เริ่มเดินได้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มีนาคมปี 2546 เฟธได้ไปออกรายการทอล์กโชว์ และเดินสายไปกับออสซี ออสบอร์น ร็อกสตาร์ระดับตำนานของโลก รวมทั้งได้รับการติดยศจ่ากองทัพบกแห่งสหรัฐ
ส่วนจูด ได้กลายเป็นนักพูดให้กำลังใจ และเขียนหนังสือไปแล้ว 2 เล่ม ซึ่งในปีหน้า เธอกับเฟธจะเดินทางจากเมืองอาร์ดมอร์ในรัฐโอกลาโฮมาไปยังเมืองชิคาโกในรัฐอิลลินอยส์ เพื่อเขียนหนัง สือเล่มที่ 3 ที่มีชื่อว่า เฟธ วอล์กส์ ทั้งนี้ จูดและสุนัขคู่ใจได้รับจดหมายกับอีเมลวันละไม่ต่ำกว่า 200 ฉบับ รวม ทั้งมักไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่าง ๆ หลายสิบแห่งในทุกปี ตลอดจนแวะเยี่ยมโรงพยาบาลทหารผ่านศึกอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อปลอบขวัญทหารที่ได้รับ บาดเจ็บ
จูดเล่าว่า เธอไม่มีวันลืมผู้หญิงคนหนึ่งจากนครนิวยอร์ก ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น เพราะเสียขาทั้งสองข้างด้วยโรคเบาหวาน ทำให้หญิงผู้นี้ซึมเศร้าและมีความหดหู่กับชีวิต แต่พอได้เห็นเฟธที่ยืนอยู่บนมุมถนน ทำให้หญิงผู้นี้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปฐานทัพสหรัฐของเฟธ ก่อให้เกิดกำลังใจอย่างสูง โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟธได้ไปรัฐวอชิงตัน เพื่อพบทหารราว 5,000 นายที่ฐานทัพอากาศแมคชอร์ด และที่พอร์ท เลวิส ซึ่งทหารเหล่านี้บางกลุ่มต้องเดินทางไปทำสงคราม ขณะที่บางพวกกลับจากสมรภูมิรบ
และเฟธไม่เคยสร้างความผิดหวัง เพราะมันเรียกรอยยิ้มให้กับทหารหาญเหล่านี้ได้ทุกครั้ง จูดกล่าวอีกว่า ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ เฟธจะได้พบรูเบน คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อ 7 ปีก่อน เพราะรูเบนมีกำหนดปลดประจำการและเดินทางกลับบ้านในวันที่ 1 มกราคม พร้อม กับของขวัญวันเกิดสุดโปรดให้กับเฟธ ซึ่งเป็นถั่วลิสงบดเคล้ากับเนย
ปัจจุบัน จูดได้ลาออกจากการเป็นครูและวางแผนที่จะพาเฟธไปรอบโลก เพื่อสอนผู้คนว่า แม้จะไม่มีรูปร่างที่สมบูรณ์ แต่ก็สามารถที่จะมีจิตวิญญาณที่สมบูรณ์ได้ในชีวิตมักจะมีสิ่งที่เราไม่ปรารถนาอยู่เสมอ ดังนั้นการที่จะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพียงแค่มองชีวิตจากอีกมุมหนึ่ง และเฟธก็เป็นตัวอย่างของกำลังใจและปาฏิหาริย์ของ ชีวิตให้กับทุกคน.
จากนั้นรูเบนได้มอบเฟธให้แก่แม่ของเขา ซึ่งก็คือจูด สปริงเฟลโลว์ ครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นผู้ดูแล และเป็นคนตั้งชื่อให้ว่า เฟธ ซึ่งในภาษาอังกฤษ มีความหมายว่าศรัทธา ตอนแรกครอบครัวสปริงเฟลโลว์ มักอุ้มเฟธเวลาไปไหนมาไหน แต่ในที่สุด จูดจึงฝึกสุนัขตัวนี้ให้เดินด้วยตัวเอง เบื้องต้นเธอให้เฟธ อยู่บนกระดานโต้คลื่น เพื่อให้รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว ต่อมาใช้พีนัทบัตเตอร์ หรือถั่วลิสงบดเคล้ากับเนยเป็นรางวัล ล่อให้เฟธยืนและกระโดดไปรอบ ๆ ด้วยขาหลังที่เหลืออยู่ และภายหลังการฝึกบนหิมะ เฟธก็สามารถเดินได้เหมือนคน
ทุกวันนี้ เฟธมีความคล่องตัวขึ้น สามารถเดินและวิ่งได้ตามที่ต้องการ ถึงกระนั้น เฟธยังต้องกินวิตามินและอาหารเสริมต่าง ๆ นับตั้งแต่เริ่มเดินได้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มีนาคมปี 2546 เฟธได้ไปออกรายการทอล์กโชว์ และเดินสายไปกับออสซี ออสบอร์น ร็อกสตาร์ระดับตำนานของโลก รวมทั้งได้รับการติดยศจ่ากองทัพบกแห่งสหรัฐ
ส่วนจูด ได้กลายเป็นนักพูดให้กำลังใจ และเขียนหนังสือไปแล้ว 2 เล่ม ซึ่งในปีหน้า เธอกับเฟธจะเดินทางจากเมืองอาร์ดมอร์ในรัฐโอกลาโฮมาไปยังเมืองชิคาโกในรัฐอิลลินอยส์ เพื่อเขียนหนัง สือเล่มที่ 3 ที่มีชื่อว่า เฟธ วอล์กส์ ทั้งนี้ จูดและสุนัขคู่ใจได้รับจดหมายกับอีเมลวันละไม่ต่ำกว่า 200 ฉบับ รวม ทั้งมักไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่าง ๆ หลายสิบแห่งในทุกปี ตลอดจนแวะเยี่ยมโรงพยาบาลทหารผ่านศึกอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อปลอบขวัญทหารที่ได้รับ บาดเจ็บ
จูดเล่าว่า เธอไม่มีวันลืมผู้หญิงคนหนึ่งจากนครนิวยอร์ก ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น เพราะเสียขาทั้งสองข้างด้วยโรคเบาหวาน ทำให้หญิงผู้นี้ซึมเศร้าและมีความหดหู่กับชีวิต แต่พอได้เห็นเฟธที่ยืนอยู่บนมุมถนน ทำให้หญิงผู้นี้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปฐานทัพสหรัฐของเฟธ ก่อให้เกิดกำลังใจอย่างสูง โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟธได้ไปรัฐวอชิงตัน เพื่อพบทหารราว 5,000 นายที่ฐานทัพอากาศแมคชอร์ด และที่พอร์ท เลวิส ซึ่งทหารเหล่านี้บางกลุ่มต้องเดินทางไปทำสงคราม ขณะที่บางพวกกลับจากสมรภูมิรบ
และเฟธไม่เคยสร้างความผิดหวัง เพราะมันเรียกรอยยิ้มให้กับทหารหาญเหล่านี้ได้ทุกครั้ง จูดกล่าวอีกว่า ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ เฟธจะได้พบรูเบน คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อ 7 ปีก่อน เพราะรูเบนมีกำหนดปลดประจำการและเดินทางกลับบ้านในวันที่ 1 มกราคม พร้อม กับของขวัญวันเกิดสุดโปรดให้กับเฟธ ซึ่งเป็นถั่วลิสงบดเคล้ากับเนย
ปัจจุบัน จูดได้ลาออกจากการเป็นครูและวางแผนที่จะพาเฟธไปรอบโลก เพื่อสอนผู้คนว่า แม้จะไม่มีรูปร่างที่สมบูรณ์ แต่ก็สามารถที่จะมีจิตวิญญาณที่สมบูรณ์ได้ในชีวิตมักจะมีสิ่งที่เราไม่ปรารถนาอยู่เสมอ ดังนั้นการที่จะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพียงแค่มองชีวิตจากอีกมุมหนึ่ง และเฟธก็เป็นตัวอย่างของกำลังใจและปาฏิหาริย์ของ ชีวิตให้กับทุกคน.
พัฒนาการ ด้านการเดินของ เฟธ ที่ช่วงอายุต่างๆ
ไม่ว่า เฟธ จะเดินไปที่ไหนก็เป็นที่สนใจของคนทั้งเมือง ทุกคนรักมัน
หนังสือชื่อว่า With a Little Faith
Jude Stringfellow ลาออกจากงาน เพื่อออกเดินทางไปทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึง ความพยายาม
หนึ่งในกิจกรรมที่ เฟธ ออกไปพบกับเด็กๆ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ เฟธ ไปเป็นกำลังใจให้ใครอีกหลายคน ว่า อย่าท้อ
ของไทยก็มีใช่ไหม!เหมือนเคยเห็น!!!
ReplyDelete